เลือกใช้และสวมหมวกกันน็อกถูกวิธี

คุณชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า วัสดุภายในหมวกกันน็อคทำจากโฟม ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษสามารถยืดหยุ่นได้เมื่อถูกกระแทก จึงช่วยดูดซับและกระจายแรงไม่ให้ส่งไปยังสมองผู้ประสบอุบัติเหตุ ขณะที่วัสดุภายนอกมีความแข็งแรง จะช่วยปกป้องศีรษะไม่ให้กระแทกกับ พื้นถนนโดยตรง จึงช่วยลดการบาดเจ็บรุนแรง และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะผู้ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์เลือกใช้และสวมหมวกกันน็อกอย่างถูกวิธี ดังนี้

การเลือกใช้หมวกกันน็อก ควรใช้หมวกกันน็อกแบบเต็มใบที่มีขนาดพอดีกับศีรษะ มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาห กรรม หมวกมีน้ำหนักไม่มากเกินไป รวมถึงมีสีสันสดใส จะช่วยให้ผู้ขับรถคันอื่นมองเห็นอย่างชัดเจนในระยะไกล การสวมหมวกกันน็อกอย่างถูกวิธี ให้สวมหมวกกันน็อกในลักษณะตรง ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง คาดสายรัดคางและปรับความตึงให้กระชับใต้คาง สายไม่พลิก บิดหรือหย่อน รวมถึงกระชับเพียงพอที่หมวกกันน็อกจะไม่หลุดออกจากศีรษะเมื่อประสบอุบัติเหตุ จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตได้

หมวกกันน็อคเต็มใบ

ข้อควรระวังในการใช้หมวกกันน็อก ควรเปลี่ยนหมวกกันน็อกทุก ๆ 3-5 ปี หรือภายหลังที่หมวกกันน็อกกระแทกพื้น หรือของแข็งอย่างรุนแรง เพราะวัสดุภายในหมวกกันน็อกจะเสื่อมสภาพและไม่สามารถรองรับแรงกระแทกได้เมื่อประสบอุบัติเหตุ สวมหมวกกันน็อกและคาดสายรัดคางทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ พร้อมใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเป็นระดับความเร็ว ที่หมวกกันน็อกรองรับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เก็บรักษาหมวกกันน็อกอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการเก็บในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง ใกล้แหล่งความร้อน เพราะทำให้พลาสติกและโฟมหมดอายุการใช้งาน ส่งผลให้ไม่สามารถรองรับแรงกระแทกได้เมื่อประสบอุบัติเหตุ

การสวมหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐานอย่างถูกวิธี ช่วยลดการบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะได้ ร้อยละ 72 และลดการเสียชีวิตได้ ร้อยละ 39 เมื่อประสบอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย ทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ไม่ว่าจะเดินทางในระยะใกล้หรือไกล ควรสวมหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐานอย่างถูกวิธีทุกครั้ง จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บรุนแรง และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน.

ความคิดเห็น